ศึกทำสงครามชายแดนระหว่างกองทัพภรรยานมากับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู พื้นที่ จังหวัดเมียวดี ในฝั่งภรรยานมา ตรงกันข้าม อำเภอแม่ใส่ จังหวัดตาก เมืองไทย…ดูท่าจะไม่จบลงได้อย่างง่ายๆยังเดินหน้าเริ่มจู่โจมกันทั้งยังทางอากาศ ภาคพื้นดินอย่างมากถ่วงขยายออกไปตามแนวชายแดนไทย–ภรรยานมาหลายจุด
ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นหวั่นไหวสนั่นแนวชายแดน อำเภอแม่ใส่ ไม่ขาดระยะมายาวนานหลายสัปดาห์สามารถแลเห็นเปลวพวยพุ่งขึ้นฟ้าชัดแจ้งแล้ว “เด็ก…สตรีชาวภรรยานมา” ต่างพากันหนีตายผ่านแม่น้ำเมยเข้ามาในไทยขอหนีหลบภัยหลายพันคน “หน่วยงานราชการไทย” ก็ต่างรีบช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมด้วยเหมือนกันพื้นฐานนำไปยัง “จุดอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว” ที่มีการเตรียมการไว้แล้ว “ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า–ออกเด็ดขาด” เพื่อคุ้มครองปกป้องความปลอดภัยขั้นที่สูงที่สุด ในส่วนเหตุการณ์ขณะนี้ “การข่าวสารชายแดน” ให้ข้อมูลว่า การสู้รบคราวนี้ “ทหารภรรยานมา” เริ่มเริ่มเข้าจู่โจม “กองกำลังเคเอ็นยู” อย่างมากตลอดมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม2564 รอบๆจุดการประจันหน้ากันนี้ก็อยู่ไม่ไกลแนวชายแดนไทยตรงกันข้ามเขตพื้นที่ ambxbet จังหวัดตาก แล้วมีทีท่าทวีความร้ายแรงหนักขึ้นเรื่อยทำให้เกิดอาการชาวบ้านภรรยานมาพากันหนีการสู้รบผ่านแม่น้ำเมยระดับน้ำตื้นเข้ามาอาศัยในเขต อำเภอเจอพระ 400-500 คน ใช้วัดบ้านหมื่นฤาชัย ตำบลเจอพระ เป็นจุดอาศัยชั่วครั้งชั่วคราว โดยมากเป็นเด็ก คนวัยแก่ หญิงทั้งมีชายวัยฉกรรจ์…ประชาชนเล็กน้อยอาจจะกางเต็นท์พักแรมอยู่ตามป่าริมน้ำเมยฝั่งภรรยานมาอีก มากมาย เนื่องจากห่วงบ้านช่องเงินทอง สัตว์เลี้ยง แต่ว่าถ้าหากมีเหตุปะทะร้ายแรงก็มั่นใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้น่าผ่านมาฝั่งไทยโดยทันที ต่อมา “เขต อำเภอแม่ใส่” ก็มีผู้หลบภัยราว 3-4 พันคน “ข้าราชการไทย” จัดจุดพักอาศัยชั่วครั้งชั่วคราวไว้ที่ ตำบลแม่ตาว ตำบลแม่กุ แล้วก็ ต.มหาวัน มีการดูแลการดำรงชีวิตอาหารตามหลักมนุษยธรรม สิ่งจำเป็น “ผู้หลบภัยทุกคนจำเป็นต้องผ่านการคัดเลือกกรองวัววิด-19” รวมทั้งเจอบางบุคคลติดโรคจะต้องถูกนำเข้าสู่วิธีการรักษาถัดไปทั้งยังในตอนนี้ “สภาพภูมิอากาศหนาวเย็นมากมาย” ผู้ย้ายที่อยู่เริ่มมีปัญหาสุขภาพป่วยหนักมากขึ้น แต่ว่าก็มี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาช่วยเหลือรอดูแลตรวจร่างกายอนามัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสด้วย แต่ว่า “เหตุการณ์การสู้รบ” ออกจะร้อนรุ่มแนวโน้มร้ายแรงมากกว่าเดิม ประเมินจากเสียงปืนกล…ปืนใหญ่ดังอีกทั้งช่วงเวลากลางวัน ค่ำคืน แล้วหลังจากนั้นก็มี “กระสุนใหญ่ไม่เคยทราบข้าง” ผ่านแนวชายแดนตกในเขตไทยถี่ขึ้นเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมู่บ้านดอนไชย ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่ใส่” พื้นที่ใกล้จุดปะทะในรัศมีลูกกระสุนตกมีผลเสียมากมายสุด ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา “ลูกปืนใหญ่” ลอยผ่านมาตกไร่อ้อยราษฎรเสียงระเบิดดังลั่นหมู่บ้าน อีกที่มีลูกจรวดอาร์พีจี ไม่รู้จักข้างปริมาณ 1 ลูก ตกใส่บ้านราษฎรหมื่นฤาชัย ตำบลเจอพระ อำเภอเจอพระ ด้วย “จุดทำศึกอยู่ริมน้ำเมย” ที่มีลักษณะโค้งเว้าราวกับงูเลื้อยลัดผ่านหมู่บ้านอันเป็นต้นสายปลายเหตุ “ลูกกระสุนใหญ่ยิงพลาดเป้าหลุดลอยผ่านมาตกในฝั่งไทยเสมอๆ” สร้างความแตกตื่นกลัวให้ “คนประเทศไทย” ที่เล็กน้อยอาศัยใกล้แนวทำศึกจะต้องย้ายถิ่นหนีออกมาจากบ้านไปอยู่อาศัยกับบ้านเครือญาติที่ปลอดภัยชั่วครั้งชั่วคราว ในความเป็นจริงแล้ว “ประชาชนชาวไทยอาศัยใกล้แนวทำศึก” เคยชินกับเหตุการณ์นี้ดีมักจัดแจงด้วยการเก็บของจำเป็นเงินทองมีค่าใส่ไว้กระเป๋าแล้วหันหัวรถออกนอกบ้านพร้อมสามารถเปลี่ยนที่ย้ายถิ่นได้ตลอดโดยทันที…แม้กระนั้นหัวข้อนี้ “ทีมเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14” ก็มิได้อยู่เฉยมีการโต้กลับด้วยการยิงลูกปืนควันตามกฎการใช้กำลังเตือนอีกทั้ง 2 ข้างรู้ว่า “ลูกกระสุนปืนตกลงมาฝั่งไทย” อีกทั้งทำหนังสือคัดค้านไปยังรัฐบาลภรรยานมา ผ่านคณะกรรมการชายแดนระดับเขตแดนไทย-ภรรยานมา (TBC) อีกด้วย
เพื่อระแวดระวังประเด็นการใช้อาวุธพื้นที่ฝั่งไทยพร้อมโต้ตอบถ้าหากมีลูกปืนตกฝั่งไทยอีก
ด้วยเหตุนี้เหตุการณ์ยังไม่เป็นที่ไว้ใจเพราะว่า “ทหารภรรยานมายังประเดิมกระหน่ำยิงด้วยอาวุธหนักกระหน่ำฐานกองกำลังเคเอ็นยูอย่างมาก” เสียงระเบิดดังกระหึ่มมาถึง “ตลาดแม่ใส่” สร้างความแตกตื่นให้คนประเทศไทยอาศัยใกล้พื้นที่แนวชายแดนทำให้ “ทหารไทย” ยังคงเข้าเสริมตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ชายแดน 24 ชั่วโมง สำหรับเพื่อการคุ้มครองการบุกรุกอำนาจอธิปไตยดูแลด้านความยั่งยืนมั่นคงความปลอดภัยทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดน แล้วยังไม่อนุญาตให้ “ราษฎร” เข้าทำการกสิกรรมในพื้นที่จุดเสี่ยงใกล้จุดรบกระทั่งเหตุการณ์สงบลง
“การสู้รบระหว่างทหารภรรยานมารวมทั้งกองกำลังเคเอ็นยูห่างหายไปเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว แม้กระนั้นคราวนี้กลับมายิงปะทะกันใหม่ออกจะหนักด้วยอาวุธปืนหนักอีกทั้งปืนกลรวมทั้งปืนใหญ่ มีเสียงดังลั่นตลอดทั้งวันตลอดทั้งคืน ทำให้มีผู้ป่วย…เสียชีวิตกันทั้งยัง 2 ข้าง แต่ว่ายังไม่มีจำนวนการสิ้นไปออกมา” การข่าวสารชายแดนว่า ต้นสายปลายเหตุการสู้รบคราวนี้ก็มาจาก “ทหารภรรยานมาพากเพียรกำจัดกำจัด กรุ๊ปต้านรัฐบาล” ที่มีเล็กน้อยหันมาจับอาวุธก่อเหตุรายวัน สร้างสถานการณ์ป่วนปั่นในหลายพื้นที่ของภรรยานมา ด้วยเหตุว่าการเคลื่อนขบวนประชุมต้านรัฐบาลภรรยานมานั้นไม่มีรายงานคัดค้านกันมายาวนานหลายเดือนแล้วมีการกำจัดไล่จับกุมตัวผู้ต้านทานอย่างมาก ทำให้นิดหน่อยหนีเข้าป่าแอบอยู่ภายในเขตพื้นที่ของกองกำลังคนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน อันเป็นมูลเหตุ “ทหารภรรยานมา” เข้ามาทำลายล้างกำจัดคราวนี้ ถ้าหากเอ่ยถึงใจความสำคัญ “การค้าชายแดนไทย–ภรรยานมา” ยังไม่กระทบด่านชายแดนสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อาจเปิดธรรมดา แล้วมีการขนส่งผลิตภัณฑ์ผ่านชายแดนกันครื้นครึกยกตัวอย่างเช่นเดิม แต่ “ทหารภรรยานมา” มีการตั้งด่านตรวจหารถบรรทุกผลิตภัณฑ์ทุกประเภทค่อนข้างจะเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองปกป้องการขโมยลอบลำเลียงขนถ่ายอาวุธผ่านชายแดน
ทั้งยังด้วยพื้นที่การสู้รบปะทะกันอยู่ห่างด่านอณาเขต 10 กิโลเมตร แล้วทหารภรรยานมาเสริมกำลังเข้ามาจุดนี้จำนวนมาก เพื่อปกป้องเหตุซ้ำรอยเมื่อ 10 ปี ก่อนนี้ “กองกำลังคนกลุ่มน้อย” เข้ายึดด่านมีผลต่อการค้าขายอย่างมาก ต่อมา “หัวข้อการระบาดวัววิด-19” ออกจะดียิ่งขึ้น “คนประเทศไทยและก็ชาวภรรยานมาอาศัยใน จังหวัดตาก” ตกใจปกป้องตัวเองส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากการใช้มาตรการตามกฎหมายบังคับให้ใส่หน้ากากอย่างเข้มงวดแล้ว ทั้งยังข้าราชการสาธารณสุขก็ออกปูพรมฉีดยาเชิงรุกให้ “แรงงานต่างประเทศทุกเชื้อชาติ” ไม่ว่าจะถูกข้อบังคับหรือเป็นแรงงานดุร้าย สร้างภูมิต้านทานกลุ่มควบคุมการระบาดน้อยลงดียิ่งขึ้น ในส่วน “การแพร่ระบาดในภรรยานมา” ก็มีทิศทางคลี่คลายด้วยเหมือนกันจาก “จำนวนผู้ติดเชื้อโรค” เดิมเคยขอเข้ามารักษาตัวใน โรงพยาบาลแม่ใส่ จำนวนมากต่อวัน เวลานี้ลดน้อยลงเนื่องจากว่า “โรงพยาบาลแม่ใส่ และก็ โรงพยาบาลเมียวดี” มีการส่งผ่านความช่วยเหลือเกื้อกูลทางด้านการแพทย์ด้วยกัน อยู่ตลอด
ย้ำด้วยเรื่อง “การขโมยลอบเข้าเมืองไม่ถูกกฎหมาย” สามารถสลักจับกุมตัวได้สม่ำเสมอแล้วระยะหลังมานี้มักจับแบบเป็นๆกระบวนการใหญ่ที่มีผู้แอบหนีเข้าเมืองหลักร้อยคนขึ้นไป ถึงแม้ว่าแนวชายแดนไทย–ภรรยานมาจะมีการทำสงครามกัน แม้กระนั้นคนกลางแรงงานโหดร้ายก็ปรับทางลักลอบผ่าน อำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง ที่ไม่มีการประจันหน้ากันแทน เมื่อโดนจับจับก็จำเป็นต้องตรวจค้นเชื้อวัววิด ถ้าเกิดเจอการได้รับเชื้อจะถูกส่งรักษาจนกระทั่งหายแล้วสนับสนุนกลับประเทศ “ละเว้นโรฮีนจาที่รัฐบาลภรรยานมาปฏิเสธ” ดำรงอยู่ศูนย์กักกันกองร้อย ตำรวจตระเวณชายแดน346 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเรื่อย ย้อนกลับมา “การสู้รบของทหารภรรยานมารวมทั้งกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู” มีความน่าจะเป็นไปได้ที่คงจะร้ายแรงกินเวลากว่าทุกหนในรอบหลายสิบปี ด้วยเหตุว่ามีกล่าวว่า “ทหารภรรยานมา” วางเป้าปราบยึดพื้นที่ตรงจุดนี้ให้ควรได้ ทำให้มีการเสริมกำลังทางภาคพื้นดิน แล้วก็มีการจู่โจมทางอากาศอย่างมากตามมานี้ เวลาที่ “ชาวภรรยานมา” มีลักษณะท่าทางจ่อย้ายถิ่นหนีการสู้รบผ่านน้ำเมยมาพึ่งไทยหลายพันคนอีกแน่ “ภาครัฐไทย” ก็สั่งดูแลผู้อพยพตามหลักสากลตามแผนเคยกำหนดไว้ ทำให้การช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เหตุปะทะระหว่างกองทัพภรรยานมากับกองกำลังเคเอ็นยูนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีแล้วดูท่าไม่น่าจบลงง่าย “เมืองไทย” คงจะจำต้องตั้งรับ “ผู้หลบภัย” ตามหลักทฤษฎีมนุษยธรรมดีๆเมื่อเหตุการณ์สงบจำเป็นต้องรีบส่งตัวกลับประเทศ เพราะเหตุว่าประเดี๋ยวจะหลงเหลือดังที่เคยมีอยู่เสมือนเวลานี้อีก...