สำนักพุทธฯ ยันพระใช้เด็กปั่นจรวดต้องสึก ด้านเจ้าตัวหนีไปวัดอื่น

พระใช้เด็กปั่นจรวดต้องสึก

สำนักพุทธฯ ยันพระใช้เด็กปั่นจรวดต้องสึก ด้านเจ้าตัวหนีไปวัดอื่น ลั่นไม่สึกเด็ดขาด อ้างรู้กฎของสงฆ์ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงจะไม่ปาราชิก

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพระสมบัติ หรือบัติ ประภาโส อายุ 40 ปี เจ้าอาวาสวัดประดู่ ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง ถูกเด็กนักเรียนชั้น ป.3 และ ป.5 กล่าวหาว่าพระบัติ บังคับให้ปั่นอวัยวะเพศจนสำเร็จความไคร่

ต่อมามีนักเรียนชั้น ม.1 และนักเรียนชั้น ป.6 ออกมาเปิดเผยอีกว่า โดนพระบัติกระทำในลักษณะเดียวกัน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ออกมาระบุอีกว่า มีวัยรุ่นในหมู่บ้านอายุตั้งแต่ 15-20 ปี ทั้งที่เคยเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านประดู่ และผู้ที่เคยไปบวชที่วัดบ้านประดู่ บุหรี่ไฟฟ้า โดนแบบเดียวกันอีกกว่า 20 คน

ความคืบหน้าล่าสุด พระบัติได้หนีไปจำวัดที่วัดกุดโคลน ต.ห้วยสำราญ ซึ่งเป็นวัดของเจ้าคณะตำบล เพื่อหนีกองทัพนักข่าว และต้องการให้กระแสเงียบไป เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พระบัติมีสีหน้าตกใจ แต่ยืนยันผ่านสื่อว่า “ฉันรู้ดีกฎของสงฆ์ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงจะไม่ปาราชิก แต่นี่เป็นเด็กผู้ชาย ให้มาจับอวัยวะเพศเฉยๆ”

โดยระหว่างที่พระบัติกับเจ้าคณะตำบลกำลังนั่งคุยกับนักข่าว มีชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าพระบัติมาจำวัดของเจ้าคณะตำบล ได้เดินทางมาเอาด้ายผูกข้อมือพระบัติ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจ โดยพระบัติบอกกับญาติโยมว่า “จะไม่สึกโดยเด็ดขาด”

ด้านนายเพทาย สดทรงศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีนี้ได้มีการประชุมหารือกันแล้วหลายฝ่ายมาก่อนหน้านี้ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพระที่ถูกกล่าวหา กระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาอานาจารเด็ก ซึ่งมีอายุไม่ถึง 13 ปี ถือว่าเป็นคดีที่รุนแรง จึงทำหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอกระสัง เพื่อให้ดำเนินการสึกพระบัติออกจากการเป็นพระแล้ว พร้อมกับรายงานให้เจ้าคณะจังหวัดทราบ